การเปรียบเทียบ 5 วิธีในการวัดค่าอรรถประโยชน์ของคุณภาพชีวิตด้านสุขภาพ ของนักศึกษาปริญญาตรี A Comparison of Five Approaches for Measuring Utility Values of Health-related Quality of Life among Undergraduate Students

บทคัดย่อ   วัตถุประสงค์: เพื่อทดสอบคุณสมบัติและความสอดคล้องกันของคะแนนอรรถประโยชน์จาก 5 วิธี คือ EQ-5D-3L, EQ-5D-5L (cTTO model), EQ-5D-5L (DCE model), EQ-5D-5L (Hybrid model) และ VAS ของนักศึกษาระดับปริญญาตรี วิธีการศึกษา: การศึกษาเชิงสำรวจแบบภาพตัดขวางเก็บข้อมูลระหว่างมีนาคมถึงเมษายน 2565 กับกลุ่มตัวอย่าง 393 คน ใช้สถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ภายในชั้น (Intraclass Correlation Coefficient; ICC) เพื่อทดสอบความสอดคล้องของค่าอรรถประโยชน์ 5 วิธี การวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นพหุคูณเพื่อเปรียบเทียบค่าอรรถประโยชน์ตามกลุ่มย่อยตามลักษณะทางประชากร ได้แก่ เพศ อายุ โรคประจำตัว ประวัติการสูบบุหรี่ และประวัติการดื่มเหล้าหรือเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ ผลการศึกษา: ค่าอรรถประโยชน์เฉลี่ย (SD) จากน้อยไปหามาก คือ 0.79 ± 0.13 (VAS), 0.84 ± 0.18 (EQ-5D-3L), 0.92 ± 0.11 (Hybrid model)  0.93 ± 0.12 (cTTO model) และ 0.94 ± 0.10 (DCE model) ค่า ICC แสดงคู่วิธีที่สอดคล้องกันในระดับยอดเยี่ยม ได้แก่ cTTO model-Hybrid model, cTTO model-DCE model, DCE model-Hybrid model แต่พบว่า VAS และ EQ-5D-3L และ EQ-5D-5L มีความสอดคล้องระดับแย่ พบว่าเพศหญิงและผู้สูบบุหรี่มีค่าอรรถประโยชน์ EQ-5D-3L, cTTO model, DCE model และ Hybrid model ต่ำกว่าเพศชายและผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ (P-value < 0.05) สรุป: EQ-5D-5L (DCE model) เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการหาประเมินอรรถประโยชน์สำหรับนักศึกษาปริญญาตรีเพราะสามารถจำแนกค่าอรรถประโยชน์ได้ระหว่างกลุ่มย่อย คำสำคัญ: คุณภาพชีวิตทางด้านสุขภาพ, ค่าอรรถประโยชน์, แบบสอบถามอีคิวไฟว์ดีทรีแอล, แบบสอบถามอีคิวไฟว์ดีไฟว์แอล, ความสอดคล้องกัน    Abstract Objective: To investigate the performance and agreement of utility scores elicited from various elicitation methods of EQ-5D-3L, the three value sets of the EQ-5D-5L (cTTO model, DCE model, and Hybrid model), and VAS among undergraduate students. Methods: A cross-sectional survey study was conducted with 393 undergraduate students between March and April 2022. Intraclass correlation (ICC) was used to determine the agreement of utility values derived from five approaches. Multiple regression was used to compare the utility values with differences in gender, age, smoking status, alcohol consumption and medical conditions. Results: The mean (SD) utility values derived from five approaches were as follows: 0.79 ± 0.13 (VAS), 0.84 ± 0.18 (EQ-5D-3L), 0.92 ± 0.11 (Hybrid model)  0.93 ± 0.12 (cTTO model), and 0.94 ± 0.10 (DCE model). The ICC showed excellent agreement among these following pairs: cTTO model-Hybrid model, cTTO model-DCE model, DCE model-Hybrid model. However, the agreement of utility values from VAS and EQ-5D-3L and EQ-5D-5L was poor. Females and smokers reported lower the utility values from EQ-5D-3L, cTTO model, DCE model, and the Hybrid model than their counterparts (P-value < 0.05).  Conclusion: The EQ-5D-5L (DCE model) is the best elicitation method among undergraduate students because it can discriminate utility scores between predefined subgroups. Keywords: Health-related quality of life, Utility scores, EQ-5D-3L, EQ-5D-5L, agreemen