CORE
🇺🇦
make metadata, not war
Services
Services overview
Explore all CORE services
Access to raw data
API
Dataset
FastSync
Content discovery
Recommender
Discovery
OAI identifiers
OAI Resolver
Managing content
Dashboard
Bespoke contracts
Consultancy services
Support us
Support us
Membership
Sponsorship
Community governance
Advisory Board
Board of supporters
Research network
About
About us
Our mission
Team
Blog
FAQs
Contact us
The Development of a Training Course for Vocational Teachers to Develop Instructions in Portable Devices by using Authoring System Model
Authors
Komsan Bhuthong
Jiraphan Srisomphan
Pairote Stirayakorn
Publication date
26 December 2022
Publisher
KMUTNB
Abstract
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและประเมินความเหมาะสมรูปแบบการพัฒนาระบบนิพนธ์บทเรียน สำหรับสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพา 2) เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพหลักสูตรฝึกอบรมครูสถานศึกษาอาชีวศึกษา ในการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพาตามรูปแบบระบบนิพนธ์บทเรียน กลุ่มเป้าหมายการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าแผนกวิชา ครูผู้สอน และผู้เรียน โดยเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนด ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในด้านการจัดการเรียนการสอนของครู ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ 2) ผลการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครูในการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพา พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ทักษะ และกิจนิสัยที่ดีเกี่ยวกับการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพาประกอบด้วย 8 หัวข้อเรื่อง ที่มีองค์ประกอบคือ เนื้อหา สื่อ กิจกรรม และการประเมินผลของแต่ละเรื่อง ผลการประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมได้ประยุกต์ใช้รูปแบบ CIPP Model ได้ผลดังนี้ 1) การประเมินบริบท พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) การประเมินปัจจัยเบื้องต้น ได้ผลการประเมินความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของหลักสูตรมีค่าดัชนีความสอดคล้องสูง และผลการนำหลักสูตรไปทดลองใช้ ปรากฏว่าค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบมีค่าอยู่ระหว่าง 0.80 – 0.85 และได้ค่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ภาคทฤษฎี มีค่า E1/E2 เท่ากับ 83.64/82.07 และภาคปฏิบัติมีค่าร้อยละ 81.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อการฝึกอบรมระดับมากที่สุด 3) การประเมินกระบวนการ เป็นการประเมินผลการนำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้จริงกับกลุ่มเป้าหมาย พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ภาคทฤษฎีมีค่า E1/E2 เท่ากับ 85.44/83.78 และภาคปฏิบัติ มีค่าร้อยละ 84.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อการฝึกอบรมระดับมากที่สุด และ 4) การประเมินผลผลิตโดยการติดตามความพึงพอใจ พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าแผนกวิชา และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้บทเรียนบนอุปกรณ์พกพาในระดับมากที่สุด จากผลการประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมทุกรายการเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดหลักสูตรจึงมีประสิทธิภาพตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและประเมินความเหมาะสมรูปแบบการพัฒนาระบบนิพนธ์บทเรียน สำหรับสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพา 2) เพื่อพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพหลักสูตรฝึกอบรมครูสถานศึกษาอาชีวศึกษา ในการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพาตามรูปแบบระบบนิพนธ์บทเรียน กลุ่มเป้าหมายการวิจัย ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าแผนกวิชา ครูผู้สอน และผู้เรียน โดยเลือกตามเกณฑ์ที่กำหนด ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) รูปแบบที่พัฒนาขึ้นสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาในด้านการจัดการเรียนการสอนของครู ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบโดยผู้เชี่ยวชาญ พบว่า รูปแบบมีความเหมาะสมระดับมากที่สุด ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว้ 2) ผลการพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมครูในการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพา พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความรู้ ทักษะ และกิจนิสัยที่ดีเกี่ยวกับการสร้างบทเรียนบนอุปกรณ์พกพาประกอบด้วย 8 หัวข้อเรื่อง ที่มีองค์ประกอบคือ เนื้อหา สื่อ กิจกรรม และการประเมินผลของแต่ละเรื่อง ผลการประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมได้ประยุกต์ใช้รูปแบบ CIPP Model ได้ผลดังนี้ 1) การประเมินบริบท พบว่า หลักสูตรฝึกอบรมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด 2) การประเมินปัจจัยเบื้องต้น ได้ผลการประเมินความสอดคล้องระหว่างจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมกับองค์ประกอบต่าง ๆ ของหลักสูตรมีค่าดัชนีความสอดคล้องสูง และผลการนำหลักสูตรไปทดลองใช้ ปรากฏว่าค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบมีค่าอยู่ระหว่าง 0.80 – 0.85 และได้ค่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ภาคทฤษฎี มีค่า E1/E2 เท่ากับ 83.64/82.07 และภาคปฏิบัติมีค่าร้อยละ 81.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อการฝึกอบรมระดับมากที่สุด 3) การประเมินกระบวนการ เป็นการประเมินผลการนำหลักสูตรฝึกอบรมไปใช้จริงกับกลุ่มเป้าหมาย พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ภาคทฤษฎีมีค่า E1/E2 เท่ากับ 85.44/83.78 และภาคปฏิบัติ มีค่าร้อยละ 84.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด และผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความพึงพอใจต่อการฝึกอบรมระดับมากที่สุด และ 4) การประเมินผลผลิตโดยการติดตามความพึงพอใจ พบว่า ผู้บริหารสถานศึกษา หัวหน้าแผนกวิชา และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้บทเรียนบนอุปกรณ์พกพาในระดับมากที่สุด จากผลการประเมินประสิทธิภาพของหลักสูตรฝึกอบรมทุกรายการเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดหลักสูตรจึงมีประสิทธิภาพตามสมมติฐานของการวิจัยที่ตั้งไว
Similar works
Full text
Open in the Core reader
Download PDF
Available Versions
Online Journal System of KMUTNB / วารสารวิชาการออนไลน์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ
See this paper in CORE
Go to the repository landing page
Download from data provider
oai:ojs.kmutnb.ac.th:article/6...
Last time updated on 09/01/2023